Archive for the ‘Amazon’ Category

Dec 05

วันนี้ขอยกกระทู้จาก TSB ของคุณ Iam-AJ มาแปะในบล๊อกเพื่อเพิ่มพลังะหน่อยนะครับ ยอดอะไรจะขนาดนั้น เหลือเชื่อจริงๆ
http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,245338.0.html

เพลินไปหน่อย เดินป่ามา 2 ปี ซะแล้ว … ผมเริ่ม Amazon Nov 2009
อิอิ คนแรกที่ผม ขอขอบคุณมากๆๆๆๆๆ ที่สุด ที่ทำให้ผมรู้จัก tsb, seo, blogger และ amazon คือ “แฟนผม”
แฟนผมเป็นคนสมัครสมาชิกที่นี่ และตั้งชื่อ iam-AJ ขึ้นมา
ถ้าผมตั้งเองคงชื่อ iam-Liverpool 555

และกลุ่มคน ที่ผมต้องขอขอบคุณ ที่มอบความรู้ SEO และ เรื่องราวของ Amazon ให้ผม คือ
เว็บคุณ Trawut, ThaiSEM, SEM, และ TSB
จากคนทำเว็บ design สวยๆ อย่างเดียว
4เว็บด้านบน มีส่วนสอนผมทำ SEO ทำ Amazon และสอนให้รู้จักของฟรีบนโลกออนไลน์ .. ขอบคุณคับ

### Gimmick เล็กๆ วันนี้ 4 ธันวาคม เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ผมขายชิ้นแรกได้ เฮ้ !!  #1# อดทน & เรียนรู้

กว่าจะได้ชิ้นแรก จากวันที่สมัคร ผมใช้เวลา 33 วัน
33 วัน เรียนรู้-ลงมือทำ-วิเคราะห์-ลงมือทำใหม่ คนเริ่มต้นทำอเมซอน ต้องเคยเหนื่อย (ถ้าไม่มีทุนหนา)
กว่าจะรู้ว่า ทำยังไงให้ขายได้ทุกวัน ขายได้ใน 1วัน ต้องขอบคุณ 33 วัน หลายสิบกระทู้ หลายสิบเว็บ ที่สอนผม คับ

### ปลากรอบ @2Years เคยทำ ทำอยู่ ไม่เคยทำ  #2# ลงมือทำ & เรียนรู้

สีแดง หมายถึง เคยทำ และเลิกทำแล้ว (ด้วยเหตุผลส่วนตัว อิอิ ไม่ได้หมายถึง ไม่ดี ไม่ควร ไม่ตำหนิคนทำอยู่ คับ)
สีเขียว หมายถึง ทำอยู่ และกำลังทำอยู่
สีเหลือง หมายถึง ไม่เคยทำ (ไม่ได้หมายถึง ไม่ดี ไม่ควร นะคับ หมายถึง ตัวผม ไม่เคยทำเท่านั้น)

หวังว่า จะเป็นประโยชน์ และมีสาระบ้าง ไม่มากก็น้อย สำหรับมือใหม่ๆ สำหรับท่านเทพๆ ก็ผ่านนะคับ อิอิ
24 เดือน ไม่เคยหยุดนิ่ง แต่ค่อยๆ เรียนรู้ บริหารจัดการเวลาได้
เลือกที่จะทำ สิ่งที่ควรทำ เลือกที่จะ ไม่ทำ สิ่งที่ไม่จำเป็น ทำให้งานเบาลงๆๆ

### ปลากรอบ สถิติใหม่ ตามสไตล์ AJ  #3# มีผลงาน & มาโม้มาโชว์ อิอิ

วันที่ยอดผมสูงสุดในรอบ 2 ปี ที่ผ่านมา … จาก acc1 คุณตะภาพ +เพิ่มชุด BFD
* วันยอดสูงสุด นั้นหมายความว่า ไม่ใช่ยอดปกติเฉลี่ยต่อวัน ไม่ควร x30 เพราะจะทำให้ได้มากเว่ออออ คับ อิอิ

ปล
สิ่งที่ผม เคยทำ ไม่เคยทำ ทำอยู่
ไม่ใช่ สิ่งที่เพื่อนๆ ต้องทำ ต้องไม่ทำ
เพราะ เป้าหมายเดียวกัน สามารถเดินทางไป ด้วยรถคนละคัน ได้คับ

ปล2
สุขสันต์ วันพ่อ นะคับ สำหรับพี่ๆ เพื่อนๆ ที่เป็นคุณพ่อแล้วทุกท่าน ^_____^

  • Share/Bookmark
Nov 23

ผลสำรวจจากการเก็บข้อมูลผ่าน twitter
ระบุว่า คนอเมริกันส่วนใหญ่ตั้งใจจะซื้อของผ่าน amazon
สินค้าที่คนต้องการซื้อยังเป็นกลุ่ม computer + tablet

แต่ก็มีสินค้าตัวอื่นๆที่ผู้คนสนใจ ลองดูไว้เป็น guideline ในการทำ seo ค่ะ เผื่อบางท่านจะปรับตัว
รีบๆๆกันหน่อยเน้อ เวลาทำเงินใกล้หมดแล้ววว
http://mashable.com/2011/11/22/black-friday-twitter-infographic/

  • Share/Bookmark
Nov 21

ความหวังจะโกย BFD ซะหน่อย เหลืออีกไม่กี่วัน เว็บกำลังพุ่งเลย แต่มาดับก่อนถึงเส้นชัยไม่กี่วัน  น่าเสียดายจัง อันนี้ก็เป็นอาการบุญมี แต่กำบังอีกกรณีนึงครับ ไม่เป็นไร ยังพอมีเวลา ดันกันต่อไปset-1

  • Share/Bookmark
Nov 15

Black Friday ปีนี้ นับเป็นปีที่วุ่นวาย และไม่พร้อมที่สุดเลย ก็ฐานที่มั่นสำนักงานปั่นของเรา โดนน้องน้ำบุกจนต้องย้ายที่ทำงานหนี  แทนที่จะได้เตรียมงาน กลับเสียงานซะนี่ แย่จริงๆ ไปอยู่ที่ใหม่กว่าจะตั้งหลักได้ กว่าจะได้ ADSL มาใช้ ก็เล่นเอาเสียเวลาไปหลายสัปดาห์เลย

เอาล่ะเมื่อพอจะตั้งหลักได้แล้ว ก็ว่าด้วยการเปิดเกมสู้ซะหน่อย

สำรวจคู่ต่อสู้
รู้เขารู้เรา ก็สำรวจสนามรบซะหน่อย จากการสำรวจก็พบว่ามีเว็บตัวเก่งที่ครองคีย์เวิร์ดไปทั่ว ก็ยังเป็น dream team อันประกอบไปด้วย Amazon, hubpage, naxtag และ เจ้าของสินค้า อยู่นั่นเอง บางคีย์ก็มี facebook,wiki เข้ามาแทรก คีย์หลักๆ ก็มีแต่ขาใหญ่ทั้งนั้น บอกได้คำเดียวว่าโหดมากๆ จะโค่นมันคงเหนื่อยตายชัก แต่คีย์เล็กคีย์น้อยที่ยังว่างก็มีนะเออ

สำรวจตัวเอง
มาดูของตัวเอง เว็บหลักๆ PR สูงๆ หายเกลี้ยงเลย (เพราะทิ้งร้างมานาน) แต่ของเราก็มีจุดแข็งอยู่ คือ ทำไว้เยอะ หลายสิบโดเมน หลายพันสับโดเมน มีทั้ง blogger, wpmu,bmg,script เขียนเอง, 155store, aom, astore, pligg , imacro, VPS 2 acc , share host 1 acc ฯลฯ จะว่าไปมันก็เฉียดๆ หมื่นเว็บล่ะครับ ทำทิ้งทำขว้างเยอะจัด จดไว้ทิ้งๆ ไว้ ว่าจะทำแต่ไม่ได้ทำจริงจังซะทีก็เยอะ โดเมนงามเยอะสุดๆ

เอาล่ะเมื่อสถานการณ์มันมารูปนี้ ครั้นจะเอาไม้ซี่ไปงัดไม้ซุงก็ท่าจะไม่รอด เราก็เน้นหว่านคีย์เยอะๆ เข้าไว้ล่ะกัน มันครอบจักรวาลอยู่แล้วนิ ไม่ติด Google ก็คงจะติด Yahoo หรือ Bing มั่งแหละ ที่ว่างยังพอมีน่ะ อาศัยเยอะเข้าว่า แบบน้ำท่วมทุ่งไปเลย 555

ขอตั้งชื่อยุทธการนี้ว่า “ยุทธการน้ำท่วมทุ่ง” เลยล่ะกันครับ

ทำอะไรมั่ง กับศึกนี้ list รายชื่องานที่ทำไว้ดังนี้
1. ก็เอา imacro submit url ทั้งหมื่น URL นั่น ลง yahoo+bing ไปโลด search engine ก็เล่นมันทั้ง google, yahoo ,bing เอา statcounter จับมันมี traffic มาจากทั้ง 3 แหล่งเลยครับ แนวโน้ม traffic เว็บขายสินค้า ก็เริ่มกลับมา (จจุบันโดน yahoo แบน account ไปล่ะ 555)

2. blogger ก็ update ข้อมูลต่อเนื่อง จนสิ้นเดือน พร้อมเชคยอดคนที่มาจาก blogger เน้นๆ 10 blog เทพ ไม่เยอะ แต่เน้น update ต่อเนื่อง

3. Mo Script ต่างๆ ที่ใช้งานอยู่ ก็โมมันเรื่อยๆ ให้แตกต่างเข้าไว้ ยิ่งโมยิ่งมีโอกาส (Unique เท่าที่จะทำได้)

4. เว็บที่ไม่มี traffic ก็ submit ไปเรื่อยกับเว็บที่ฝากลิ้งได้ทั้งหลาย

5. ตรวจสอบสถิติจาก statcounter, วัดผล และแก้ไขข้อบกพร่องในแต่ละวัน ทั้งความเร็วการแสดงผลของเว็บ สินค้ากับคีย์ที่เข้ามา และที่สำคัญเชค ยอด Amazon Order ยามเย็นทุกๆ วัน

ปีนี้แผนงานก็ไม่ซับซ้อน เวลาก็น้อย ได้เท่าไหร่ก็เท่านั้นครับ เน้นปลุกของเก่าเข้ามาสู้ เอ้า!ว่าแล้วก็ลุยกันเลยครับเพื่อนๆ

  • Share/Bookmark
Nov 08

SEO ทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก วิธีการคิดแบบเดิมที่เคยได้ผลอย่างรวดเร็ว เริ่มจะไม่มีประโยชน์ ได้ไม่คุ้มเสีย ออกแนวเหนื่อยฟรีอีกตะหาก

Google Algorithm ใหม่ช่างฉลาด และออกมาเพื่อกำจัด เว็บปั่นโดยแท้ จะเห็นว่าปัจจุบันเว็บอันดับดีๆ มักจะเป็นเว็บเก่าๆ เว็บต้นฉบับ และมีคุณภาพจริงๆ ไม่เช่นนั้นก็ต้องเส้นใหญ่แบบ blogger, facebook,youtube นั่นไง

เว็บเล็กๆ ออกแนวขยะ ไม่ค่อยได้ผุดได้เกิดกันเลยเชียว

เมื่อ google เกิดการรังเกียจเว็บปั่นมันจึงทำให้สายปั่นชักท้อแท้ซะเหลือเกิน แบบนี้คงจะต้องทำเว็บปั่นที่เนื้อหาแน่น และลงแรงขึ้นอีกเยอะเลย

เฮ้อ … เหนื่อยกันอีกแล้วพวกเรา

  • Share/Bookmark
Oct 10

41LfM4NhP4L 

ประกาศเตือน !! ระวังน้ำท่วมเฉียบพลัน กรุงเทพชั้นใน 15 แห่งเป็นจุดที่เสี่ยงต่อน้ำท่วมมากที่สุด ได้แก่

1.เขตสาทร ย่านถนนจันทร์ เซนต์หลุยส์ สาธุประดิษฐ์

2. เขตพญาไท ถนนพหลโยธิน ช่วงคลองสามเสน-คลองบางซื่อ

3. เขตพระโขนง ถนนสุขุมวิท จากคลองพระโขนง-ซอยลาซาล

4. เขตวัฒนา ซอยสุขุมวิท 39 และ 49

5. เขตวังทองหลาง ถนนลาดพร้าว จากคลองลาดพร้าว-ห้างเดอะมอลล์

6. เขตบึงกุ่ม ถนนนวมินทร์ จากคลองดอนอีกา-แยกถนนประเสริฐมนูกิจทั้งสองฝั่ง

7. เขตดินแดง ถนนรัชดาภิเษก หน้าห้างโรบินสัน

8. เขตจตุจักร ถนนรัชดาภิเษก แยกลาดพร้าว

9. เขตราชเทวี ถนนเพชรบุรี จากถนนบรรทัดทอง-แยกราชเทวี

10. เขตราชเทวี ถนนนิคมมักกะสัน

11. เขตราชเทวี ถนนพระรามที่ 6 หน้าตลาดประแจจีน

12. เขตบางแค ถนนเพชรเกษม ซอย 63 (ซอยวัดม่วง)

13. เขตยานนาวา ถนนเย็นอากาศ จากถนนนางลิ้นจี่- ซอยศรีบำเพ็ญ

14. เขตประเวศ ถนน ศรีนครินทร์ ช่วงคลองตาสาด-คลองตาช้าง

15. เขตพระนคร ถนนสนามไชยและถนนมหาราชดูเพิ่มเติม

  • Share/Bookmark
Oct 06
 
ข่าวเศร้าสำหรับชาว IT และของโลกครับ ข่าวจากบริษัท Apple ยืนยันล่าสุดว่า Steve Job  ผู้เป็น CEO และผู้ก่อตั้งบริษัท Apple ได้เสียชีวิตลงแล้วเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2011
 
แอปเปิลยืนยันการเสียชีวิตของสตีฟ จ็อบส์ ปิดตำนานผู้ทรงอิทธิพลสูงสุดแห่งซิลิคอน แวลลีย์ บริษัทแอปเปิล อิงค์ ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองคิวเปอร์ทิโน่ รัฐแคลิฟอร์เนีย แถลงยืนยันเมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่นว่า สตีฟ จ็อบส์ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 56 ปี โดยในแถลงการณ์ของบริษัท ระบุว่า  เรารู้สึกเศร้าใจอย่างลึกซึ้งที่ต้องประกาศว่า สตีฟ จ็อบส์ ได้จากเราไปแล้วในวันนี้   สตีฟเป็นบุคคลที่ฉลาดหลักแหลม มีความรักในสิ่งที่เขาทำและมีพลังอันเป็นแหล่งของการผลิตนวัตกรรมที่มากมายนับไม่ถ้วน ที่เสริมสร้างและปรับปรุงให้ชีวิตของพวกเราทุกคนดีขึ้น โลกดีขึ้นกว่าเดิมอย่างไม่อาจวัดได้ก็เพราะสตีฟ
 
 คำคมดีๆ จาก Steve Job (ขอบคุณการแปลจากทีมงาน Sanook! Campus )
 
1. อย่าทิ้งความกระหาย อย่าคลายความซื่อ
 
2. ผมถูกไล่ออก แต่ผมยังมีความรักอยู่นั่นทำให้ผมตัดสินใจเริ่มต้นใหม่
 
3. อย่าตกเป็นทาสของกฎเกณฑ์-นั่นคือการใช้ชีวิตตามความคิดของคนอื่น อย่าปล่อยให้เสียงของคนอื่นดังกลบเสียงของหัวใจเราเอง
 
4. เวลาส่วนใหญ่ในชีวิตเราจะหมดไปกับงาน วิธีเดียวที่จะทำให้เรามีความสุขกับงานที่ทำก็คือ เมื่อเราทำงานที่ยอดเยี่ยม  และวิธีเดียวที่จะทำให้ได้งานออกมายอดเยี่ยม คือ เมื่อเรารักงานที่เราทำ
 
5.  ความตายเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ธรรมชาติให้เรามา เป็นผู้นำความเปลี่ยนแปลงกำจัดของเก่าเพื่อสละพื้นที่ให้กับของใหม่
 
เพิ่มเติมจากที่เคยอ่านมา
 
6. คิดอย่างแตกต่าง
 
7. “คิดต่าง” อย่า “มัวแต่ยืนอยู่ในแถวเหมือนพวกแกะ”
 
8. คุณอยากใช้ชีวิตที่เหลือขายน้ำหวาน หรืออยากมีโอกาศเปลี่ยนแปลงโลก?
 
9. คุณ ไม่สามารถเพียงถามลูกค้าว่าพวกเขาต้องการอะไร แล้วพยายามมอบสิ่งที่พวกเขาต้องการให้พวกเขา เพราะกว่าคุณจะผลิตของสิ่งนั้นสำเร็จ พวกเขาก็อยากได้ของใหม่แล้ว
 
10. ผมเชื่อว่าครึ่งหนึ่งของสิ่งที่แยกระหว่างเจ้าของกิจการที่ประสบความสำเร็จและไม่ประสบความสำเร็จคือ ความไม่ยอมแพ้ล้วนๆ
 
แถลงการณ์ ระบุอีกว่า ความรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา คือความรักที่มีต่อ ลอรีน ภรรยา และครอบครัวของเขา ดวงใจทุกดวงของพวกเราอุทิศเพื่อพวกเขา และทุกคนที่ได้รับการสัมผัสจากพรสวรรค์อันพิเศษของเขา  
 
          การเสียชีวิตของจ็อบส์มีขึ้นเพียงวันเดียว หลังจากแอปเปิลเปิดตัวสมาร์ทโฟนตัวใหม่ ไอโฟนโฟร์เอส ที่สำนักงานใหญ่ในคิวเปอทิโน่ ในช่วงท้ายของชีวิตที่เขาต้องต่อสู้กับโรคมะเร็ง เขาได้รามือจากการบริหารงานในบริษัท แต่ยังคงรั้งตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหาร
 
          สตีฟ จ็อบส์ หรือชื่อจริงว่า สตีเฟ่น พอล  สตีฟ  จ็อบส์ เกิดเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ปี 1955เป็นบุตรบุญธรรมของนายพอล และนางคลาร่า จ็อบส์ ส่วนบิดาที่แท้จริงของเขาเป็นชาวซีเรียชื่อ อับดุลฟัตตะห์ จันดาลี เป็นนักศึกษา ก่อนจะทำงานเป็นอาจารย์สอนในคณะรัฐศาสตร์ มารดาเป็นนักศึกษาอเมริกัน ชื่อ โจแอนน์ ซิมป์สัน ที่ต่อมาทำงานเป็นวิทยากรด้านการบำบัดเขามีน้องสาวร่วมสายเลือดชื่อ โมนา ซิมป์สัน นักเขียนนวนิยาย
 
          จ็อบส์จบการศึกษาจาก โฮมสตีดไฮสกูล ในเมืองคิวเปอร์ทิโน่ และสมัครเรียนต่อที่รีด คอลเลจ ในเมืองพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน แต่เรียนได้ภาคการศึกษาเดียวก็พักการเรียน หลายปีต่อมาเขาได้รับเชิญไปปาฐกถาในพิธีสำเร็จการศึกษาของบัณฑิตมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ซึ่งเขาบอกว่า เพราะการที่เขาพักการเรียนที่รีด คอลเลจ ทำให้เขามีเวลาไปเข้าเรียนเกี่ยวกับตัวอักษร ถ้าผมไม่ได้เรียนวิชานั้นที่วิทยาลัยรีด เครื่องแม็คอินทอชคงจะไม่มีรูปแบบอักษรหลากหลายและปราศจากฟอนต์ ที่มีการแบ่งระยะห่างอย่างถูกสัดส่วนเช่นนี้
 
          ปี 1976 จ็อบส์ ในวัน 21 ปี กับสตีฟ วอซเนียก วัย 26 ปี ได้ร่วมกันก่อตั้งบริษัทแอปเปิล คอมพิวเตอร์ ขึ้น ภายในโรงรถของครอบครัวจ็อบส์ เครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่นำออกสู่สายตาชาวโลก คือ Apple I ตั้งราคาไว้ที่ 666.66 ดอลล่าร์ โดยเอามาจากหมายเลขโทรศัพท์เครื่องตอบรับเล่าเรื่องตลกขบขันของวอซเนียก ที่ลงท้ายด้วยหมายเลข -6666
 
          ปี 1977 ทั้งคู่ก็ปล่อย Apple II ออกมา ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก แต่เมื่อวางจำหน่ายApple III ในปีเดียวกัน กลับได้รับความสำเร็จน้อยกว่าเดิม
 
       24 มกราคม 1984 – แอปเปิล เผยโฉมเครื่อง แมคอินทอช ในราคา 2,500 เหรียญฯ ซึ่งกลายเป็นคอมพิวเตอร์ที่มาเปลี่ยนอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ในภายหลัง
      
       กันยายน 1985 – จ็อบส์ ลาออกจาก แอปเปิล คอมพิวเตอร์ หลังจากนั้นได้ก่อตั้งบริษัทคอมพิวเตอร์ขึ้นมาใหม่ ชื่อว่า เน็กซ์ (NeXT)
 
       กุมภาพันธ์ 1986 – จ็อบส์เข้าซื้อกิจการ จอร์ส ลูคัส คอมพิวเตอร์ กราฟิก ในราคา 10 ล้านเหรียญ และเปลี่ยนชื่อเป็น พิกซาร์ อิงค์ (Pixar Inc)
      
       กุมภาพันธ์ 1993 – เน็กซ์ ซึ่งอยู่ในความดูแลของสตีฟ จ็อบส์ ตัดสินใจเลือกผลิตคอมพิวเตอร์ หันมาพัฒนาทางด้านซอฟต์แวร์โดยเฉพาะ และปลดพลักงานกว่าครึ่งจากทั้งหมด 540 คน
      
       พฤศจิกายน 1995 – พิกซาร์ ทำรายได้มหาศาลจาก ทอย สตอรี่ (Toy Story) โดย จ็อบส์ เป็นหนึ่งในผู้อำนวยการสร้าง ก่อนที่จะขายบริษัทให้ ดิสนีย์ ในราคา 7,400 ล้านเหรียญภายหลัง
      
       20 ธันวาคม 1996 – แอปเปิล ตัดสินใจเข้าซื้อกิจการ เน็กซ์ ในมูลค่า 430 ล้านเหรียญฯ สำหรับระบบปฏิบตัการ ทำให้จ็อบส์ กลับมาเป็นที่ปรึกษาของบริษัทในส่วนของซอฟต์แวร์ แมคอินทอช ขณะเดียวกันยังได้แต่งตั้ง กิล อแมลีโอ มาดำรงค์ตำแหน่งซีอีโอ
 
       9 กรกฏาคม 1997 – 17 เดือนให้หลัง กิล ถูกกดดันให้ลากออก ส่งผลให้จ็อบส์ ขึ้นมาเป็นรักษาการซีอีโอ ระหว่างค้นหาผู้ที่จะมาดำรงค์ตำแหน่งแทน จ็อบส์เรียกตำแหน่งนี้ว่า ‘iCEO : interim CEO’
      
       6 สิงหาคม 1997 – ภายในงาน แมคเวิลด์ จ็อบส์ ประกาศว่าคู่แข่งตลอดการของแอปเปิล อย่างไมโครซอฟท์ จะร่วมลงทุน 150 ล้านเหรียญ พร้อมกับแต่งตั้ง แลร์ลี่ แอลลิสัน อดีตซีอีโอจากออราเคิล ขึ้นมาดูแล
      
       พฤษภาคม 1998 – แอปเปิลกลับมาลุยในตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล จากการเปิดตัว iMAc ในรูปแบบออลอินวัน พีซี ที่ราคา 1,299 เหรียญ หลังจากนั้นผลิตภัณฑ์ตระกูล i เริ่มออกสู่ตลาดอย่าง iBook
      
       5 มกราคม 2000 – หลังจากรับหน้าที่ iCEO มา 2 ปีครึ่ง สุดท้ายแอปเปิล ก็แต่งตั้งให้จ็อบส์ ขึ้นเป็นซีอีโอ และภายในปีเดียวกันได้มีการเปิดตัวระบบปฏิบัติการ Mac OS X พร้อมระบุว่าภายใน 10 ปีข้างหน้าแอปเปิลจะกลายเป็นหนึ่งใน 10 บริษัทไอที ที่ประสบความสำเร็จมาก
      
       9 มกราคม 2001 – จ็อบส์ เปิดตัว ไอจูนส์ ‘iTunes’ ซึ่งกลายเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ค่ายเพลงกลับมามีชีวิตอีกครั้งจากการให้บริการดาวน์โหลดเพลง
      
       24 มีนาคม 2001 – จัดส่ง Mac OS X 10.0 ในชื่อโค้ดเนม ชีต้าส์ (Cheetah) ออกสู่ตลาด
      
       พฤษภาคม 2001 – แอปเปิล เปิดร้านค้าปลีกแห่งแรกที่ แมคลีน เวอจีเนีย และ เกล็นเดล แคลิฟอร์เนีย หลังหวังที่จะขยายไปกว่า 300 สาขาทั่วโลก
      
       23 ตุลาคม 2001 – จ็อบส์ ขึ้นเวทีร่ายมนต์สะกดให้แก่ชาวไอทีทั่วโลก จากการเปิดตัวเครื่องเล่นเพลงแบบพกพา ‘ไอพอด’ ที่สามารถจัดเก็บเพลงเอ็มพีสาม ได้มากกว่า 1,000 เพลง ในราคา 399 เหรียญ
      
       28 เมษายน 2003 – คลังเพลงบนไอจูนส์ มีเพลงมากกว่า 200,000 จาก 5 ค่ายเพลงชื่อดัง นอกจากนี้ไอจูนส์ยังสามารถขายเพลงได้มากกว่า 1 ล้านเพลงในสัปดาห์แรก
      
       ตุลาคม 2003 – จ็อบส์ เริ่ม ป่วยและมีอาการทรุดโทรมจากผลของมะเร็ง ซึ่งถูกเปิดเผยภายหลังจากนิตยสารฟอร์จูนว่า จ็อบส์เลือกที่จะทานอาหารเพื่อสุขภาพแทนการผ่าตัด
      
       1 สิงหาคม 2004 – ชายวัย 49 ปี ถูกตรวจพบว่าเป็นมะเร็งตับ ซึ่งจ็อบส์ระบุว่าเขาตัดสินใจที่จะผ่าตัดเพื่อรักษามะเร็ง โดยไม่ต้องการทำคีโม หรือฉายรังสี ทำให้ ทิมคุก ซึ่งเป็น ซีโอโอ ในขณะนั้นขึ้นมารับช่วงต่องานจนกระทั่งจ็อบส์กลับมาทำงานในเดือนกันยายน
      
       12 มิถุนายน 2005 – จ็อบส์ เริ่มพูดถึงเรื่องมะเร็งต่อสาธารณะชน ภายในงานปาฐกถา ที่มหาวิทยาลัย สแตนฟอร์ด โดยมีคำพูดบางส่วนว่า เขาได้รับรู้เรื่องโรคมะเร็งมาปีกว่าแล้ว ซึ่งขณะนั้นหมอบอกว่าเขาจะมีชีวิตได้ไม่เกิน 6 เดือน แต่ขณะนี้เขาสบายดีแล้ว เพราะมะเร็งตับถูกผ่าตัดออกไปแล้ว
      
       มกราคม 2006 – วอล์ท ดิสนีย์ ตัดสินใจเข้าซื้อกิจการ พิกซาร์ ในราคา 8.06 พันล้านเหรียญ แล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคม ส่งผลให้จ็อบส์กลายเเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของดิสนีย์ไปโดยปริยาย
      
       9 มกราคม 2007 – จ็อบส์ขึ้นร่ายมนต์สะกดอีกครั้งหนึ่งภายในงาน แมคเวิลด์ เพื่อเผยโฉมสมาร์ทโฟนที่มาพลิกโฉมอุตสาหกรรมอย่าง ไอโฟน (iPhone) ซึ่งทำรายได้มากกว่า 1 พันล้านเหรียญฯ พร้อมกับเปลี่ยนชื่อษริษัท แอปเปิล คอมพิวเตอร์ กลายเป็น แอปเปิล
      
       9 มิถุนายน 2008 – เพียงปีกว่าๆหลังจากนั้น จ็อบส์ ขึ้นเวทีอีกครั้งในงานสำหรับนักพัฒนาของแอปเปิล เพื่อโชว์สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่อย่าง iPhone 3G ที่บางขึ้น พร้อมกับความสามารถที่เพิ่มขึ้น
      
       21 กรกฏาคม 2008 – แอปเปิล ออกแถลงการเกี่ยวกับสุขภาพของสตีฟ จ็อบส์ หลังมีภาพน้ำหลักลด ไปจนถึงข่าวลือการเสียชีวิตส่งผลให้หุ้นของแอปเปิลร่วงถึง 12% ในวันถัดไป
      
       9 กันยายน 2009 – จ็อบส์เผยโฉมเครื่องเล่นเพลงพกพา ไอพอด รุ่นใหม่ในซานฟรานซิสโก และกล่าวเหน็บภายในงานเกี่ยวกับข่าวลือเรื่องการเสียชีวิตของเขาว่าเป็นการพูดเกินความจริง
      
       16 ธันวาคม 2008 – มีการจัดงานแมคเวิลด์ขึ้นอีกครั้ง แต่สตีฟ จ็อบส์ ไม่ได้ปรากฏกายภายในงาน
      
       5 มกราคม 2009 – จ็อบส์ ออกมาอธิบายเหตุผลที่ตนน้ำหนักลดลง เกิดจากความผิดปกติทางฮอร์โมน ซึ่งอยู่ในระหว่างการรักษาตัว
      
       14 มกราคม 2009 – สตีฟ จ็อบส์ เขียนอีเมลลางานเพื่อรักษาตัวถึงเดือนมิถุนายน โดยบอกว่าโอนหน้าที่ของตัวเองให้ ทิม คุก รับผิดชอบงานบริหารแทนไปก่อน
      
       29 มิถุนายน 2009 – แอปเปิล ประกาศว่า สตีฟ จ็อบส์ กลับมาทำงานแล้ว ทำให้หุ้นของแอปเปิลพุ่งสูงขึ้นกว่า 70% เมื่อเทียบกับวันที่ 15 มกราคม
      
       9 กันยายน 2009 – ขึ้นเวทีโชว์ตัวแก่สาธารณะชนครั้งแรก หลังจากพักรักษาตัว พร้อมกับเปิดตัว ไอพอด รุ่นใหม่ ที่ซานฟรานซิสโก อีกครั้ง
      
       27 มกราคม 2010 – ขึ้นเปิดตัวแท็บเล็ตนาม ไอแพด (iPad) ที่กลายเป็นอีกหนึ่งสินค้าปฏิวัติอุตสาหกรรม ทั้งนี้แอปเปิลสามารถขาย ไอแพด ได้ทั้งหมด 7.3 ล้านเครื่องภายในไตรมาสเดียว
      
       17 มกราคม 2011 – จ็อบส์ส่งอีเมลถึงพนักงงานแอปเปิลอีกครั้งเพื่อลางานรักษาตัว พร้อมระบุว่า ตนเองรักแอปเปิลมาก และหวังว่าจะกลับมาทำงานให้เร็วที่สุด ทิม คุก ขึ้นรับหน้าที่แทนจ็อบส์อีกครั้งหนึ่ง
      
       2 มีนาคม 2011 – จ็อบส์กลับมาจากการพักรักษาตัว พร้อมขึ้นเวทีเปิดตัว ไอแพด 2
      
       24 สิงหาคม 2011 – จ็อบส์ตัดสินใจลาออกจากการเป็นซีอีโอ และผลักดันให้ทิม คุก ขึ้นรับตำแหน่งแทน
      
       5 ตุลาคม 2011 – รายงานล่าสุด คาดการ์ณว่าโรคมะเร็งได้คร่าชีวิต ‘สตีฟ พอล จ็อบส์’ ภายในบ้านพักเมือง พาโล อัลโต รัฐ แคลิฟอร์เนีย
  • Share/Bookmark
Aug 21

วีรบุรุษ ชายแดนใต้ …

จ่าเพียรสเปเชียล 1

จ่าเพียรสเปเชียล 2

จ่าเพียรสเปเชียล 3

อาลัย จ่าเพียร

เจาะใจ : รำลึก จ่าเพียร ขาเหล็ก

พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา

  • Share/Bookmark
Aug 20

ช่วงๆ หลังๆ บรรยากาศการทำตลาดออนไลน์ มันมีอะไรให้เรียนรู้ใหม่ เยอะแยะเต็มไปหมด การทำ SEO แบบเดิมๆ ก็ยากขึ้น บางครั้ง ไม่ทำกลับทำอันดับได้ดีกว่าเว็บที่ทำ SEO อันนี้คงเป็นผลมาจากเจ้าหมีแพนด้าน้อยนั่นเอง หลังๆ เห็นเพื่อนๆ นักการตลาดหันมาสนใจเนื้อ หรือ การทำ onpage กันมากขึ้น กว่าแต่ก่อนเยอะเลย

แต่ถึงจะทำ onpage และ เนื้อหากันมากขึ้น ก็ยังทำอันดับที่ดีๆ อยากอยู่ เทพหลายๆ ท่านเลยเงียบไปซุ่มค้นคว้า เจอทางมั่ง ไม่เจอมั่งก็ว่ากันไป

วันนี้เข้าบอร์ดเสียว เจอกระทู้เรียกกำลังใจ เลยเอามาฝากครับ เผื่อใครกำลังจะท้อ
http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,195745.0.html

1. เรียนรู้ทุกวิธีในการทำ amazon อย่าปฏิเสธวิธีใดวิธีหนึ่ง ยิ่งถ้าวิธีนั้นได้มาฟรีๆ ยิ่งต้องเก็บไว้ในคลังข้อมูล
2. ทุก สคริป/cms มีข้อดี ข้อเสีย จงหาโอกาศลองให้หมด ยิ่งถ้าเป็น สคริป/cms ฟรี ยิ่งต้องลอง แล้วให้เวลากับการทดลองนั้นๆ เพื่อวัดผลว่าสามารถทำเงินได้หรือไม่
3. เลือกมา 1 สคริป/cms ที่คิดว่าเหมาะกับเราที่สุด แล้วใช้ความรู้ (ถ้ามี) พัฒนาต่อยอด สคริป/cms นั้นๆ เพื่อให้แตกต่างจากคนอื่น
4. ถ้า 1 เว็บสามารถทำเงินได้ จงทำ 1 เว็บให้เป็น 100 1,000 หรือ 10,000 เว็บ หรือที่เราเรียกว่าปั่นเว็บ
5. เราไม่ได้ปั่นเว็บเพื่อให้ google แบน เพราะฉะนั้น จงหลีกเลี่ยงการปั่นที่รู้อยู่แล้วว่าต้องถูกแบนในภายหลัง (ต้นทุนเวลา มีค่ามากกว่าต้นทุนที่เป็นเงิน)
6. แล้วจะปั่นยังไงไม่ให้โดนแบน? คำตอบอยู่ที่ข้อ 3
7. จงดูยอดของคนที่ประสบความสําเร็จแล้ว เพื่อให้เกิดแรงจูงใจในการทำงาน…

ปล1. ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ ผมใช้เวลาลองผิดลองถูก 1 ปีเต็มๆ กว่าจะได้วิธีปั่นเว็บที่กล้าพูดว่า ในโลกนี้มีผมทำวิธีนี้อยู่คนเดียว …  wanwan007
ปล2. ขอบคุณ คุณ iam-AJ สำหรับการโชว์ยอด 6 พันกว่าเหรียญในปี 2010 ที่ทำให้คนเกือบจะเลิกทำ amazon กลับมาฮึดสู้อีกครั้ง

ปล. ไม่ใช่ของผมนะครับ แต่เห็นแล้ว ชอบ เกิดแรงฮึดและได้ข้อคิดบางอย่าง นำมาฝากกันครับ

  • Share/Bookmark
Jul 20

Hai -- Royal Sprite

  • Share/Bookmark