Aug 18

การทำ SEO ให้ได้เปรียบนั้นมีอยู่ข้อนึง ที่หลายๆ คนกล้าๆ กลัวๆ ซึ่งก็ คือ การเอา keyword ใส่ใน url ยิ่งอยู่ในชื่อโดเมนเนมเลยยิ่งดี รองลงมาคือใส่ไว้ใน sub domain, directory และ ชื่อไฟล์

แต่ปัญหาติดที่ โดยมากคีย์เวิร์ดต่างๆ ที่ nich และทำเงิน มักมีชื่อยี้ห้อ รุ่นสินค้าปนอยู่ด้วย แล้วส่วนมากเอา key นั้นไปทำ seo แบบนี้

1. Secondary Level Domain Name การเอาแบรนด์เนมไปจดเป็นโดเมนเลย แบบนี้จะโดยข้อหาละเมิดเครื่องหมายการค้าได้ ดังนั้นการเอาโดเมนเป็นชื่อสินค้า ยี้ห้อไปจด จึงผิดเต็มๆ โดยมากนักทำ seo จะไม่นิยมทำกัน หรือ ถ้าจะมี ก็เป็นพวกชอบเสียวเป็นพิเศษ หากพลาดมา ก็amazon ริบเงิน google แบน โฮสเตะเรื่องเอะจริงๆ แต่บางท่านก็บอกว่ายอมเสี่ยงเพื่อผลตอบแทนที่ดีกว่า อันนี้ก็สุดแล้วแต่ท่านเหล่านั้น ซึ่งผมก็ไม่แนะนำให้ทำนะครับ

2. Third Level Domain/Sub Domain  การจดโดเมนแบบแรกถือว่ามีความเสี่ยงสูงที่สุดในการทำโดเมน กับ SEO แบบถัดมาคือการสร้าง sub domain กับแบรนด์เนม แบบนี้จะว่าไปก็เสี่ยงอยู่บ้าง แต่ไม่มากเท่าแบบแรก (ก็ยังเสี่ยงอยู่ดี) ซึ่งระดับความเสียหายจะขึ้นอยู่กับเจ้าของสินค้าว่าจะเอาเรื่อง หรือ โหดแค่ไหน บางเจ้าก็แค่เตือน แก้ไขแล้วก็จบไป บางเจ้าตั้งท่าจะฟ้องร้องกันเลย

3. แบบสุดท้าย คือ การเอาแบรนด์เนมใส่ directory,file name แบบนี้ มักไม่ค่อยมีปัญหา แต่บางแบรนด์เนมเจ้าของบ้าๆ บอๆ ก็เอาเรื่องได้เช่นกัน

จึงสรุปได้ว่าทำยังไงก็มีปัญหาครับ แต่ระดับความเสียวมันแตกต่างกัน ตามความเห็นส่วนตัวเรียงตามระดับความเสียวได้แบบนี้

domain name > sub domain > folder > filename

ก็พยายามหลีกเลี่ยงกันเอาครับ สำหรับผมแล้วไม่จดแบบโดเมนแน่นอน มันเสี่ยงมาเกินไป แต่แบบสับโดเมนนี่มีเยอะมากเลย ซึ่งต้องคอยหาข่าวและเชคเมล์ตลอดว่าแบรนด์ไหน ทำได้ ไม่ได้ มีเมล์เตือนบ้างหรือไม่ หากพบต้องรีบแก้ไข ต้องดูว่าคุณรับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน หากมีปัญหาจะต้องทำเช่นไร ซึ่งเท่าที่เพ่อนเล่ามาก็มีตั้งแต่
1. ลบโดเมนนั้นทิ้งไป
2. เจรจากับเจ้าของโดเมน จะให้ลบ โอน ปรับ หรือ ฟ้อง ว่ากันไป

สำหรับรายชื่อ brand ต้องห้าม ที่มีคนทำแล้วมีปัญหากับ sub domain เท่าที่มีข้อมูล คือ
1. soนี่ เขาว่าห้ามเลย sub domain เนี่ย
2. monsเตอร์ cable แค่มีสินค้าในเว็บยังโดนเอาเรื่องเลย
3. เอ็บสัน printer
4. LEACHโค SNOOGLE

ส่วน apple ใช้ทำ sub domain ได้นะ เขาห้ามแคโดเมนหลัก
“You may not use an identical or virtually identical Apple trademark as a second level domain name.”

ลองอ่านประกาศของ apple ดูอีกทีครับ

อ้างอิง
http://www.marketingwithmiles.com/subdomains-and-trademark-law/ เขียนได้ดีครับ
http://forums.sem.or.th/index.php/topic,19491.0.html โดนฟ้อง
http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,12161.0.html ยกเลิกหลายสิบเว็บ
http://domainatcost.com/@.php3?f=art0012.html เขาตัดสินคดีชื่อโดเมนกันอย่างไร?
http://domainatcost.com/@.php3?f=art0016.html เมื่อคนไทยโดนฟ้อง
http://www.warriorforum.com/main-internet-marketing-discussion-forum/227873-avoid-trademark-infringements-using-subdomain.html ฝรั่งก็เถียงกันเรื่อนี้

  • Share/Bookmark
Dec 08

เล่าเรื่องโดน Google เก็บ index เข้ากรุซะหน่อยซิ เตือนความทรงจำ

ตั้งแต่ทำเว็บมาจะสิบปีกว่าล่ะ ไม่เคยโดน Google ban web หรือ ที่เรียกอีกอย่างว่าการไม่ยอมเอาเว็บเราใส่ฐานข้อมูลของกูเกิ้ลนั่นเอง ซึ่งมันก็ถือว่าเรื่องใหญ่มากนะครับ ต้องยอมรับว่ากูเกิ้ลเป็น Search Engine ที่มีผู้นิยมใช้สูงสุดแล้วในเวลานี้ Traffic หรือผู้ชมก็มาจากเจ้าตัวนี้เป็นหลักเสียด้วย สอง สามเดือนให้หลังที่เริ่มทำ amazon marketing แบบจริงจังโดนแบนอานเลย

แล้วทำไงถึงโดนได้ล่ะ

น่าจะเป็นเรื่อง Duplicate Content แหละครับ เพราะใช้  Script AOM ดูดข้อมูลสินค้า amazon มาทำเว็บเลย ไม่ค่อยได้โมร้านเสียด้วย ทำให้มีปัญหาเนื้อหาซ้ำซาก น่าจะหลายล้านเว็บที่ใช้ script แบบเดียวกัน ผลคือ google จับใส่ถังขยะ ค้นไงก็ไม่เจอครับ

แรกๆ เกิดกับเว็บเกิดใหม่ แถมจด .us อันนี้พอทน
หลังๆ เว็บ pr3 domain เก่าก็โดนแถมเป็น .com ก็โดนด้วย มันไล่เก็บ aom ที่เนื้อหาไม่ unique

เซ็งเลย เป็นอันว่างานนี้เว็บในเครื่อโดน deindex หรือ โดนแบนไป 5-6 web ยังเหลือรอกอีก 20 กว่าเว็บ ซึ่งมีทั้ง script ทำมือ และ aom ผสมๆ กันอยู่ซึ่งไม่รู้จะโดนตามไปแบนอีกเมื่อไหร่สิ

ดังนั้น script เขียนเอง หรือ เนื้อหา unique จะปลอดภัยและพี่ GG ปลื้มมากกว่าครับ

  • Share/Bookmark